เมนู

ภิกขุปณามนปัญหา ที่ 3


ราชา อาห

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต
นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้าผู้ประกอบด้วยญาณปรีชา ภาสิตํ เจตํ คำดังนี้สมเด็จ
พระไตรโลกมุนีมีพระพุทธฎีกาตรัสว่า ตถาคตนี้ อโกธโน ไม่มีโกรธ วิคตขีโล มีโทษคือ
โทโสเป็นดังหลักตอปราศจากพุทธสันดานแล้ว ปุน จ ครั้นแล้วสมเด็จพระบรมโลกนาถ
ศาสดาจารย์ ปณาเมสิ มีพระพุทธฎีกาตรัสขับพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรอัครสาวก
ทั้งคู่ พร้อมด้วยบริษัทบริวารของอาตมา กึ นุ โข ภนฺเต ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา สมเด็จ
พระมหากรุณาธิคุณเจ้ามาตรัสดังนี้ จะว่าดีไม่มีโกรธหรือ โยมนี้เข้าใจแน่ทีเดียวว่า สมเด็จพระ
พุทธองค์เจ้าทรงโกรธเป็นมั่งคง ถ้าแม้ว่าพระองค์ทรงขับพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะผู้
อัครสาวกซ้ายขวานั้นเป็นมั่นคงฉะนี้แล้ว คำเดิมนี้ที่พระพุทธฎีกาตรัสว่า อโกธโน ตถาคต
ไม่มีโกรธ วิคตขีโล ตถาคตมีโทษคือโทโสเป็นดังหลักตอปราศจากสันดานแล้ว คำนี้ก็ผิด
ครั้นจะถือคำเดิมนี้ คำตรัสทีหลังก็จะผิด หรือว่าพระองค์เจ้าไม่มีจิตโกรธโปรดขับเสียด้วยจิต
ยินดี ก็ใช่ท่วงใช่ทีใช่เหตุใช่ผล โยมคิดแล้วให้ฉงนครัน อยํ ปญฺโห อันว่าปัญหานี้เป็นอุภโตโกฏิ
นิมนต์โปรดวิสัชนาให้แจ้งวิมัติกังขาในกาลบัดนี้
เถโร ฝ่ายพระนาคเสนผู้มั่นด้วยศีลาทิคุณอันวิเศษจึงถวายพระพรว่า มหาราช
ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐมหาศาล สมเด็จพระโลกุตตมาจารย์เจ้า
มีพระพุทธฎีกาโปรดไว้ว่า ตถาคตนี้ อโกธโน หาความโกรธมิได้ วิคตขีโล มีหลักคือโทโส
ในสันดานผลาญเสียแล้ว พระองค์ตรัสฉะนี้แล้ว มีพระพุทธฎีกาตรัสขับพระสารีบุตรและ
พระโมคคัลลานะ พร้อมด้วยบริษัทนั้น ใช่ว่าพระองค์จะทรงโกรธหามิได้ จะเปรียบฉันใดนะ
บพิตรพระราชสมภาร มีครุวนาปานบุรุษผู้หนึ่งสัญจรบนพื้นพสุธา ปกฺขลิตฺวา บุรุษผู้นั้น
ประมาท พลาดล้มลง ถูกรากไม้ก็ดี ถูกศิลาและหลักตอสิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้นก็ดี จะว่าพสุธาธรณีนั้น
มีความโกรธหรือว่าหามิได้
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสว่า นตฺถิ ภนฺเต ข้าแต่
พระผู้เป็นเจ้า พสุธานั้นจะได้มีความโกรธนั้นหามิได้ ประการหนึ่ง โกโป วา ความโกรธก็ดี
ปสาโท วา ความเสื่อมใสก็ดี จะได้มีแก่พสุธานั้นก็หามิได้ อยํ มหาปฐวี อันว่าแผ่นดิน
อันใหญ่ อนุนยปฏิฆวิปฺปามุตฺตา จะได้มีจิตรักใคร่และโกรธแค้นหามิได้ สยเมว โส บุรุษผู้
นั้นประมาทพลาดล้มลงเอง น สญฺญาย ด้วยตัวมิได้สำคัญสัญญา จะโทษเอาว่าพสุธาโกรธขึ้ง
จึงเผอิญให้ต้องบาดเสี้ยนหนาม ทั้งนี้หาถูกไม่
พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า ยถา มีครุวนาฉันใดบพิตรพระราชสมภาร สมเด็จ